ประเทศอิตาลีถือว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีความเจริญทางด้านการศึกษาเป็นอย่างมากเพราะทีสถาบันการเรียนที่มีคุณภาพสูงและเป็นผู้นำด้านการศึกษา  มีหลากหลายสาขาวิชาที่เปิดสอนเช่น  สถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะ การออกแบบ และอื่น ๆ ที่ชื่อเสียงในระดับโลกในเรื่องคุณภาพการสอน รวมทั้งมีภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่เป็นแรงจูงใจในการไปสู่เป้าหมายทางการศึกษา และประสบความสำเร็จในอาชีพ

ประเทศอิตาลี เป็นอีกหนึ่งประเทศในยุโรปที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง และเป็นประเทศในฝันของหลาย ๆ คนในการไปเยือนสักครั้งหนึ่ง อิตาลีนั้นนอกจากจะมีประวัติศาสตร์, อาคาร, ศิลปะที่สวยงามแล้ว วัฒนธรรมต่าง ๆ ก็น่าเรียนรู้เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นหลากหลายเหตุผลที่ทำให้หลายๆคนนิยมไปเรียนต่อประเทศอิตาลี ซึ่งอิตาลีมีสิ่งที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ คือ มีนครวาติกันซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิคตั้งอยู่กลางกรุงโรม โดยถือเป็นรัฐอิสระไม่ขึ้นกับอิตาลี

ข้อดีของการเรียนภาษาอิตาเลียนในประเทศอิตาลี
– มหาวิทยาลัยในอิตาลีมีคุณภาพสูง และเป็นผู้นำด้านการศึกษา
– ค่าเล่าเรียนถูกกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ นักศึกษาต่างชาติจ่ายค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษาเท่ากับนักศึกษาอิตาเลียน
– ค่าครองชีพ ค่าที่พัก ค่าอาหารและค่าเดินทางไม่แพง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศยุโรปอื่น
– มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร
– เป็นสังคมที่มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และการศึกษาในอิตาลีเป็นประสบการณ์การศึกษาที่ดียิ่ง
– ภาษาอิตาเลียนเป็นภาษาโรมันที่มีความใกล้เคียงที่สุดกับภาษาละติน และภาษาอังกฤษ ดังนั้นความรู้ทางภาษาอิตาเลียนจะช่วยให้เราเข้าใจนวัตกรรมของภาษา และการแปรเปลี่ยนของภาษาได้ง่ายขึ้น
– การมีความรู้ในภาษาอิตาเลียน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้สาขาวิชาชีพที่หลากหลายมากขึ้น เนื่องจากประเทศอิตาลีนั้นเป็นผู้นำทางด้านศิลปะการทำอาหาร, การตกแต่งภายใน, แฟชั่น, ออกแบบกราฟฟิก, ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ
– ประเทศอิตาลีเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวขนาดใหญ่ และมีการเติบโตในแต่ละปีด้วยอัตราที่สูง
– ประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรมศิลปะของโลกส่วนใหญ่ มากกว่าร้อยละ 60 ที่พบในประเทศอิตาลี และศิลปินหลากหลายคนที่มีชื่อเสียงระดับโลกเป็นชาวอิตาเลียน ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิลแองเจลโล หรือจอตโต

อิตาลี (Italy) หรือ สาธารณรัฐอิตาลี (Republic of Italy) เมืองหลวงคือ กรุงโรม (Rome/ Roma) ตั้งอยู่ตอนใต้ของทวีปยุโรป ลักษณะเป็นคาบสมุทรยื่นออกไปใน ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่ราบสูง โดยมีอาณาเขตทางทิศเหนือติดกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย ทิศใต้ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และทะเลไอโอเนียน ทิศตะวันตกมีพรมแดนจรดประเทศฝรั่งเศส และทะเลไทเรเนียน ส่วนทิศตะวันออกจรดทะเลอาเดรียติก และอยู่ตรงข้ามกับ สโลเวเนียโครเอเชีย บอสเนีย มอนเตเนโกร และแอลเบเนีย

ข้อมูลทางด้านภูมิอากาศ
สภาพอากาศที่อิตาลีจะเป็นอากาศแบบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คือ มีภูมิอากาศเป็นแบบอบอุ่น อุณหภูมิปานกลาง และมีฝนตกตลอดทั้งปี

ข้อมูลทางด้านประชากรและภาษา
จำนวนประชากร 57.6 ล้านคน(ปี 2000) ประกอบด้วยประชากรช่วงวัยทำงาน ระหว่างอายุ 15-64 ปีถึงร้อยละ 68   โดยมีสัดส่วนประชากรชายและหญิงที่ใกล้เคียงกัน โดยประชากรส่วนใหญ่มีเชื้อชาติอิตาเลียน มีส่วนน้อยที่เป็นลูกผสมกับเยอรมัน ฝรั่งเศส  สโลเวเนีย กรีก ฯลฯ ส่วนภาษาที่ใช้เป็นภาษาราชการคืออิตาเลียน ซึ่งมีประชากรบางส่วนของประเทศมีการใช้ภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส สโลเวเนีย ขึ้นอยู่กับว่าประชากรกลุ่มนั้นอาศัยอยู่ใกล้กับพื้นที่ของประเทศใดนั่นเอง

ข้อมูลทางด้านศาสนา
ศาสนาที่ผู้คนส่วนใหญ่ในอิตาลีนับถือ คือ ศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งชาวอิตาลีถึง 87.8% เป็นโรมันคาทอลิกโดยพฤตินัย ทั้งนี้ ประเทศอิตาลีมีกลุ่มศาสนาที่ไม่ใช่ศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ไม่ค่อยมากนัก เช่น  การอพยพเข้ามาของประชากรจากส่วนอื่นๆ ของโลก เป็นผลทำให้อิตาลีมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่ประมาณ 825,000 คน แต่เป็นพลเมืองอิตาลีเพียง 50,000 คน นอกจากนี้ อิตาลีมีชาวพุทธประมาณ 50,000 คน โดยที รัฐบาลอิตาลีได้รับรองสถานะของสมาคมชาวพุทธในอิตาลี เมื่อ 20 มีนาคม พ.ศ. 2543 และมีวัดไทยสำคัญคือ วัดสันตจิตตาราม อยู่ห่างจากกรุงโรม 52 กิโลเมตร

ข้อมูลทางด้านวัฒนธรรม
อิตาลีมีวัฒนธรรมที่คล้ายคนเอเชียโดยให้ความเคารพนับถือผู้สูงอายุ ทั้งนี้การแสดงความเคารพและให้เกียรติผู้สูงอายุถือเป็นมารยาทที่ชาวอิตาเลียนชื่นชมมาก รวมถึงการมอบดอกไม้ที่เป็นการแสดงความยินดีหรือขอบคุณเมื่อได้รับเชิญเป็นแขกควรให้เป็นช่อที่จำนวนเป็นเลขคู่ในการทักทายกับชาวอิตาเลียนที่ยังไม่คุ้นเคยควรให้คำ “Signore” นำหน้าชื่อสกุลผู้ชายและ “Signora” นำหน้าชื่อสกุลผู้หญิง เมื่อแนะนำตัวหรือเรียกขานผู้นั้น ในที่ทำงานและการพบปะทางธุรกิจ เราจะต้องเรียกนามสกุล จนกว่าจะได้รับอนุญาตให้เรียกชื่อต้นได้ และหากมีคำนำหน้าชื่อ จำเป็นต้องเอ่ยให้ถูกต้องทุกครั้ง
เมื่อได้พบปะรู้จักกับคนใหม่ๆ การทักทายด้วยการจับมือเป็นเรื่องปกติ แต่บ่อยครั้งที่อาจนำมืออีกข้างมาจับที่แขนประกอบด้วย จึงไม่ต้องตกใจไป อีกทั้งคนอิตาลีมักชื่นชมผู้ที่มีการศึกษา มีความสามารถ ประสบความสำเร็จในอาชีพและให้ความสำคัญกับศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ วรรณกรรม เพลง ไวน์ เสื้อผ้า อาหาร และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นเราก็ควรจะศึกษาข้อมูลไว้บ้างหากต้องไปอาศัยอยู่ที่อิตาลี

ข้อมูลด้านการเดินทาง
การเดินทางภายในอิตาลีสามารถทำได้ง่ายและกำหนดเวลาได้ค่อนข้างแน่นอน เพราะว่าอิตาลีมีระบบขนส่งที่ดี และค่อนข้างตรงเวลา ยกเว้นรถไฟปกติที่ไม่ใช่ความเร็วสูง เดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองนั้น สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินหรือรถเมล์ ส่วนการเดินทางระหว่างเมืองใช้รถไฟหรือเครื่องบินจะดวกที่สุด
การเดินทางโดยรถไฟจะมี 2 ลักษณะหลักๆ คือ รถไฟความเร็วสูงซึ่งใช้เวลาเดินทางน้อยและตรงเวลา เหมาะสำหรับเดินทางระหว่างเมืองที่อยู่ห่างกัน แต่จำเป็นต้องเสียค่าจองที่นั่งทุกครั้งก่อนการโดยสาร แต่หากเดินทาง
ระหว่างเมืองใกล้กันนั้น สามารถใช้รถไฟปกติได้ และไม่ต้องเสียค่าจองที่นั่งเพิ่ม แค่มีตั๋วรถไฟก็ขึ้นได้เลย แต่มีข้อเสียคือบางครั้งอาจจะ Delay ได้ตั้งแต่ไม่กี่นาทีจนไปถึงเป็นชั่วโมง ซึ่งอาจจะทำให้แผนการเดินทางเสียได้

ระบบการศึกษา
ระบบการศึกษาในอิตาลี เริ่มภาคบังคับตั้งแต่ประถมศึกษาขึ้นไป หากผู้ที่กำลังต้องการ หรือวางแผน ที่จะ ศึกษาต่อประเทศอิตาลี นั้น ถือได้ว่าข้อมูลระบบการศึกษาจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนที่ดีต่อไป
ระบบการศึกษา ซึ่งสามารถแบ่งได้ ดังนี้

การศึกษาก่อนวัยเรียน – การศึกษาไม่บังคับ
3 เดือน – 3 ขวบ – ศูนย์รับดูแลเด็กเล็ก เสียค่าเรียน
4 – 5 ขวบ – NursingSchoolไม่เสียค่าเรียน

ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น การศึกษาภาคบังคับ ปี
6 – 11 ขวบ – การศึกษาประถมศึกษารวม 5 ปี
12 – 14 ขวบ – การศึกษามัธยมต้นรวม 3 ปีได้ประกาศนียบัตร

ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
15 – 17 ปี – โรงเรียนมัธยมปลายสายอาชีพ 3 ปี
15 – 19 ปี – โรงเรียนมัธยมสายสามัญ 5  ปีได้

ปริญญาในมหาวิทยาลัยในอิตาลี
การสมัครเข้าศึกษาระดับมหาวิทยาลัย นักศึกษาต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. สำเร็จชั้นมัธยมศึกษา ซึ่งศึกษาอย่างน้อย 12 ปี
2. หากศึกษามาน้อยกว่า 12 ปี นักศึกษาจะต้องศึกษาระดับมหาวิทยาลัยมาแล้ว 1 ปีในมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองปีการศึกษา
ภาคที่ 1 ต้นตุลาคม
ภาคที่ 2 ต้นมีนาคม – มิถุนายน
บางคณะอาจเปิดสอนจากพฤศจิกายน – มิถุนายน

การศึกษาระดับอุดมศึกษา 
1st University Level หลักสูตร 3 ปี โดยรับจากผู้มีคุณวุฒิเกรด 13 สำเร็จแล้วได้รับคุณวุฒิ Corsi di Diploma Universitario – DU หรือ University Diploma Course หรือ ScuoleDirette a Fini – SDAFAS
2nd University level หลักสูตร 4 – 5 ปี รับผู้จบเกรด 13 สำเร็จแล้ว ได้รับคุณวุฒิ Laurea course (Corsi di Laurea – CL) ไม่ใช่สายวิชาชีพ ยกเว้นสาขาแพทยศาสตร์ใช้เวลาศึกษา 6 ปี แต่ปกติมักจะใช้เวลามากกว่าหลักสูตร 1 – 2 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วได้รับคุณวุฒิ Diploma di Laureaสำหรับบุคคลผู้ได้รับ คุณวุฒิเรียก Dottore/Dottoressaนำหน้านามสกุล
3rd University Level Dottorato di Riccrcaหลักสูตร 2 – 5 ปี โดยรับจาก ผู้มีคุณวุฒิ Diploma di Laureaหรือเทียบเท่า  Research doctorate programmes (DR) หลักสูตร 3 – 4 ปี โดยรับจากผู้มีคุณวุฒิระดับที่ 2 หรือ Laurea

วีซ่านักศึกษา
เอกสารประกอบการขอวีซ่าเพื่อการศึกษา (ระยะเวลาพำนักไม่เกิน 365 วัน) มีดังนี้

  1. หนังสือเดินทางที่เหลืออายุใช้งานได้อย่างน้อย 90 วัน หลังวีซ่าหมดอายุ
  2. แบบฟอร์มยื่นคำร้องขอวีซ่าที่กรอกข้อความครบถ้วน
  3. รูปถ่ายปัจจุบันหน้าตรง (อายุไม่เกิน 6 เดือน) ขนาดใช้ติดบัตร จำนวน 1 รูป
  4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / บัตรประจำตัวข้าราชการ/ รัฐวิสาหกิจ (รับรองสำเนาถูกต้องพร้อมลงลายมือชื่อ)
  5. หลักฐานการเรียนจบการศึกษาครั้งสุดท้าย เช่น ประกาศนียบัตร หรือ ปริญญาบัตร (นักเรียนต้องมีความรู้พื้นฐานภาษาอิตาเลี่ยน ให้ยื่นหลักฐานแสดงว่าได้เรียนคอร์สภาษาอิตาเลี่ยนมาแล้วด้วย)
  6. หนังสือตอบรับจากสถานศึกษาในประเทศอิตาลี ระบุ ชื่อหลักสูตร/ ค่าเล่าเรียน/ ระยะเวลาเรียนทั้งหมด/ จำนวนชั่วโมงเรียนต่อสัปดาห์/ วุฒิทางการศึกษาที่จะได้รับเมื่อเรียนสำเร็จแล้ว
  7. หลักฐานการเงินของผู้ที่จะรับผิดชอบจ่ายค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายอื่นๆในระหว่างการศึกษาที่ประเทศอิตาลี -สมุดบัญชีธนาคารของผู้ออกค่าใช้จ่าย (พร้อมสำเนา ย้อนหลัง อย่างน้อย 6 เดือน)
    – หลักฐานการทำงานของผู้ออกค่าใช้จ่าย
    – ถ้ามีธุรกิจส่วนตัว ให้นำหลักฐานการประกอบธุรกิจ เช่น หนังสือจดทะเบียนธุรกิจ บัญชีรายการทางการเงินของธุรกิจ สมุดบัญชีธนาคารของธุรกิจ
    – หนังสือรับรองการทำงาน
    – หลักฐานรายได้ เช่น ใบแสดงรายการเงินเดือน (Payslip) ฯลฯ
  8. หลักฐานการชำระเงินให้กับทางสถาบัน (ในกรณีที่ได้มีการจ่ายค่ามัดจำ หรือชำระค่าเล่าเรียนทั้งหมดแล้ว)
  9. หลักฐานที่พักอาศัยระหว่างศึกษา ระบุชื่อ/ ที่อยู่ หรือสัญญาเช่า (ถ้ามี)
  10. ประกันสุขภาพและอุบัติการเดินทาง ที่ครอบคลุมระยะเวลาที่พำนักทั้งหมดในประเทศอิตาลี ซึ่งรับรองสิทธิ11. การรับการรักษาพยาบาลที่ประเทศอิตาลี วงเงินความคุ้มครองขั้นต่ำ 30,000 ยูโร
  11. ในกรณีที่นักเรียนมีอายุต่ำกว่า 18 ปีต้องมีหนังสือให้ความยินยอมในการเดินทางจากบิดา-มารดา ซึ่งออกให้ ณ ที่ว่าการเขต หรืออำเภอ
  12. ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า 2,600 บาท (วีซ่าอายุ 91-365 วัน)
  13. สำเนาการจองตั๋วเครื่องบินระบุวันเดินทางไป-กลับ ให้นำมาแสดงในวันที่มาขอรับวีซ่า

ค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อ
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆแล้วค่าเล่าเรียนของประเทศอิตาลีถือว่าถูกกว่ามาก  เพราะนักศึกษาชาวต่างชาติที่เข้ามาเรียนต่อประเทศอิตาลีก็จ่ายค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษาเท่ากับนักศึกษาอิตาเลี่ยนเช่นกัน  นอกจากนี้เรื่องค่าครองชีพ ค่าที่พัก ค่าอาหารและค่าเดินทางไม่แพง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศยุโรปอื่น ๆ และอีกประการหนึ่งที่สำคัญคือประเทศอิตาลีเป็นสังคมที่มีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และการศึกษาในอิตาลีเป็นประสบการณ์การศึกษาที่ดีอย่างยิ่ง

มหาวิทยาลัยเก่าแก่ของอิตาลีที่ยังเปิดสอน
มหาวิทยาลัยโบโลญญา
มหาวิทยาลัยปาดัว
มหาวิทยาลัยเนเปิลส์เฟเดรีโกที่ 2
http://www.unina.it/index.jsp
มหาวิทยาลัยซีเอนา
http://www.unisi.it/
มหาวิทยาลัยโรมลาซาปีเอนซา
http://www.uniroma1.it/
มหาวิทยาลัยเปรูจา
http://www.unipg.it/en/
มหาวิทยาลัยปิซา
http://www.unipi.it/
มหาวิทยาลัยฟลอเรนซ์
http://www.unifi.it/mdswitch.html
มหาวิทยาลัยปาวีอา
http://www.unipv.eu/site/home.html
มหาวิทยาลัยตูริน
http://www.unito.it/