[highlight color=”eg. yellow, black”]ทำไมจึงควรเรียนต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ ?[/highlight]

  1. เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ชื่อว่ามีการศึกษาดีที่สุดในโลก
  2. เป็นประเทศต้นกำเนิดวิชาการโรงแรม ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
  3. เป็นผู้นำด้านคุณภาพและมาตรฐานการบริการของธุรกิจการท่องเที่ยวและการ โรงแรมของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จนมีคำพูดติดปากว่า ‘Swiss Hospitality’ หรือการต้อนรับแบบชาวสวิต
  4. มีสภาพแวดล้อมที่ดี ภูมิทัศน์สวยงาม บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการเรียนการสอน

          สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศหนึ่งที่มีชื่อเสียงเรื่องคุณภาพการศึกษาสูงที่สุด ในโลก และเปิดกว้างรับนักเรียนต่างชาติ มหาวิทยาลัยบางแห่งมีนักเรียนต่างชาติถึง 40% จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักเรียนต่างชาติทั่วโลก
การโรงแรมถือเป็นหลักสูตรที่โดดเด่นที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยนักเรียนไทยนิยมเดินทางไปศึกษาต่อกันจำนวนมาก เนื่องจากโรงเรียนสอนวิชาการโรงแรมถือกำหนดขึ้นครั้งแรกในประเทศนี้ ในปี 1883 หรือกว่า 100 ปีมาแล้ว และเป็นต้นตำรับมาตรฐานการบริการของธุรกิจการท่องเที่ยวแล้วการโรงแรม จนมีคำพูดปากว่า ‘Swiss Hospitality’ หรือการต้อนรับแบบชาวสวิต และยังเป็นที่ตั้งของสถาบันการสอนด้านการโรงแรมชั้นนำของโลก

64531
          นักเรียนที่สนใจไปศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ ควรเตรียมตัวเรื่องภาษาเป็นอย่างแรกโดยต้องสอบความรู้ด้านภาษาอังกฤษให้ผ่านเกณฑ์ เนื่องจากสถาบันส่วนใหญ่สอนเป็นภาษาอังกฤษ ขณะเดียวกันสวิตเซอร์แลนด์มีภาษาราชการ 3 ภาษา คือ เยอรมัน ฝรั่งเศส และ อิตาเลียน หากมีความรู้ภาษาต่างๆ เหล่านี้เพิ่มเติมจะยิ่งได้เปรียบ และให้ปรับตัวได้เร็วขึ้นหรือหากไม่มีก็สามารถลงเรียนเพิ่มเติมได้ สำหรับการสอนการโรงแรมของสวิตเซอร์แลนด์ เน้นทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ โดยมีการฝึกงานจริงและได้รับค่าจ้างอีกด้วย

ข้อมูลทั่วไป

สภาพทางภูมิศาสตร์

wb0310_t984_r18391

          สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศเล็กๆ ที่มีการปกครองแบบสมาพันธรัฐ ตั้งอยู่ใจกลางของทวีปยุโรป พื้นที่ 2 ใน 3 ของประเทศ ประกอบด้วย ภูเขา หิมะ ป่าไม้ และทุ่งหญ้า รวมทั้งยังเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล แบ่งประเทศออกเป็น 26 มณฑล (Canton) แต่ละมณฑลมีกฎหมายของตัวเอง

สภาพภูมิอากาศ

Switzerland_banner

          ภูมิอากาศในสวิตเซอร์แลนด์แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ บางแห่งอุณหภูมิระหว่างฤดูร้อนกับฤดูหนาวจะแตกต่างกันมาก แต่สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูหนาว

ประชากร

images

          ประชากรในสวิตเซอร์แลนด์มีจำนวนราว 7.75 ล้านคน (2012) แบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ 5 กลุ่ม คือ กลุ่มที่พูดภาษาเยอรมัน (65%) กลุ่มที่พูดภาษาฝรั่งเศส (10.4%) กลุ่มที่พูดภาษาอิตาเลียน (9.8%) กลุ่มที่พูดภาษาโรมังซ์ (0.8%) และกลุ่มที่พูดภาษาอื่นๆ (14%) ภาษาทางราชการมี 3 ภาษาคือ เยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาเลียน โดยแต่ละมณฑลเป็นผู้กำหนดการใช้ภาษาราชการเอง

เวลา

          เวลาที่สวิตเซอร์แลนด์ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง

ระบบการศึกษา

          แต่ละมณฑลมีระบบการศึกษาที่แตกต่างกัน ภายใต้กรอบที่กำหนดโดยรัฐบาล ระบบการศึกษาของสวิตเซอร์แลนด์ แบ่งเป็น 5 ระดับ ได้แก่

– ระดับอนุบาล เป็นการศึกษาก่อนวัยเรียน โดนทั่วไปเด็กจะเข้าเรียนอนุบาลตั้งแต่อายุ 4 ปี

ระดับประถมศึกษา จัดเป็นการศึกษาภาคบังคับ โดยเด็กสวิตทุกคนจะต้องเรียนชั้นประถมศึกษาเมื่ออายุ 6 ปีขึ้นไป ส่วนจำนวนปีที่เรียนแตกต่างกันไปในแต่ละมณฑล ส่วนใหญ่คือ 6 ปี แต่บางมณฑลจัดเป็น 4 ปี หรือ 5 ปี

ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระยะเวลาในการศึกษาระดับนี้ มณฑลส่วนใหญ่จัดให้ต่อจากประถมศึกษา แต่บางมณฑลอาจมีระยะเวลาศึกษาเป็น 4 ปี หรือ 5 ปี แต่การศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาแล้ว ต้องมีเวลาทั้งสิ้น 9 ปี เด็กสวิตต้องศึกษาให้จบมัธยมศึกษาตอนต้น จึงจะถือว่าจบการศึกษาภาคบังคับ โดยนักเรียนจะมีอายุประมาณ 13-15 ปี

ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แบ่งออกเป็น 2 สาย คือ สายสามัญศึกษา และสายอาชีวศึกษา โดยสายสามัญมุ่งสู่การศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัย

สวิตเซอร์แลนด์เป็นที่ตั้งของ Private School ที่แพงที่สุดในโลก 10 แห่ง โดยมาตั้งอยู่แถบเทือกเขาแอลป์ มีนักเรียนทั้งหมด 100,000 คน ค่าเล่าเรียนตกปีละประมาณ 3,300,000 บาท

ระดับอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยในสวิตเซอร์แลนด์มีทั้งหมด 12 แห่งด้วยกัน ซึ่ง 10 แห่งเป็นของมณฑล ที่เหลืออีก 2 แห่งเป็นของรัฐบาลกลาง นักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายส่วนใหญ่จะเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย ซึ่งมีอยู่ทั่วไป

การโรงแรมและท่องเที่ยว

iLdoRr

          คนไทยส่วนใหญ่นิยมเรียนวิชาการโรงแรมที่แระเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการโรงแรมที่โด่งดังไปทั่วโลก โรงเรียนสอนวิชาการโรงแรมถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 100 ปีมาแล้ว ปัจจุบันมีโรงเรียนสอนวิชาการโรงแรม 20 แห่ง ส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน ทำให้มีนักเรียนเดินทางมาจากทั่วโลกตามระบบการศึกษาของสมาพันธรัฐสวิต ถือว่าสถาบันด้านการโรงแรมเป็นสาขาที่สามารถดำเนินการจัดการเรียนการสอนได้เอง จึงไม่มีการเปิดสอนในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันเทคโนโลยีของรัฐ แต่จะเปิดสอนในสถาบันการศึกษาของเอกชน มีการรับรองโดยรัฐ และ/หรือ รับรองโดยสมาคมวิชาชีพต่างๆ ระดับการศึกษาที่เปิดสอนมีตั้งแต่ระดับ Certificate (หลักสูตร 1 ปี หรือต่ำกว่า 1 ปี) Dipioma (2-3 ปี) จนถึงระดับปริญญาตรี (4ปี) และระดับปริญญาโท (2 ปี)

          การเรียนมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติด้วย ส่วนมากเป็นการฝึกใน สถาบันมีเครือข่ายความร่วมมืออยู่ โดยได้รับค่าจ้างระหว่างฝึกงาน

ทำงานพิเศษ

          นักศึกษาสามารถทำงานพิเศษได้ 15-30 ชั่วโมง แล้วแต่มณฑล โดยต้องได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยเสียก่อน นอกจากนี้ควรมีความสามรถในการใช้ภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส และอิตาเลียน

หอพักนักศึกษา

          มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ไม่มีหอพักนักศึกษา ต้องหาห้องเช่าข้างนอก สามารถขอคำแนะนำจาก Student Advisor ของมหาวิทยาลัยได้

วีซ่านักศึกษา

          การทำวีซ่านักเรียนของสวิตเซอร์แลนด์ (กรณีเรียนเกิน 90 วัน) ควรเผื่อเวลาไว้ประมาณ 1 เดือนเนื่องจากทางสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทยต้องส่งเรื่องให้กับด่านตรวจคนเข้าเมืองในแต่ละรัฐของประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นผู้ตัดสินใจ หลังจากนั้นจึงส่งกลับมาที่สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ในประเทศไทย โดยมีค่าธรรมเนียมวีซ่า 2,400 บาท และค่าส่งเอกสารทางไปรษณีย์ 180 บาทและเมื่อเดินทางเข้าประเทศแล้ว นักเรียนต้องไปยื่นเรื่องของทำ Student Permit (‘B’ Permit) ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละท้องถิ่น ภายใน 8 วัน ค่าใช้จ่ายประมาณ 150-200 บาท แล้วแต่มณฑลนักเรียนต้องยื่นเรื่องขอทำวีซ่าแบบ Student Permit (‘B’ Permit) ที่กองตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละท้องถิ่นภายใน 8 วัน หลังจากเดินทางเข้าประเทศแล้ว มีค่าใช้จ่ายประมาณ CHF 150.- ถึง CHF 200.-แล้วแต่มณฑล

เอกสารประกอบการของวีซ่านักเรียน

  1. กรอกแบบคำร้องขอวีซ่า จำนวน 3 ชุด
  2. หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลืออย่างน้อง 6 เดือนขึ้นไป
  3. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 4 รูป ฉากหลังสีขาว
  4. หลักฐานแสดงการชำระค่าเล่าเรียนจากทางโรงเรียน
  5. ใบตอบรับจากสถานศึกษา
  6. หนังสือรับรองฐานะทางการเงินของผู้ปกครอง
  7. หลักฐานการศึกษา

ค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อ

img_18c2204ddf38b89e0d74d1ff194c2c79

ระดับมัธยม (สำหรับโรงเรียนประจำชั้นสูง) ตกประมาณปีละ 2,313,500 – 3,966,000 บาท++

ระดับอุดมศึกษา ตกประมาณปีละ 43,000 – 264,000 บาท++ (เฉพาะค่าเล่าเรียน)

693,000 – 1,030,000 บาท++ (ค่าครองชีพ)

โรงเรียนการโรงแรม ตกประมาณปีละ 858,000 – 1,122,000 บาท++ (รวมค่าเล่าเรียนและค่ากินอยู่)

(อัตราแลกเปลี่ยน CHF : 33 บาท)

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

www.high-end-travel-switzerland.com/swiss-schools.html

www.paliswiss.com

–  www.educatepark.com/visa/swiss-visa.html

สำนักงาน ก.พ.

http://oeaparis.free.fr/article.php3?id_article=300

admissions@swisslearning.com

โรงเรียนประจำยอดนิยมของสวิตเซอร์แลนด์ ปี 2012

– Institut Le Rosey

– Brillantmont International School

Institut auf dem Rosenberg

Collège Champittet

Lyceum Alpinum Zuoz Collège Beau Soleil

Aiglon College

– TASIS

Collège du Léman

Leysin American School

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.ekthana.com/services/programs/boarding-school/

มหาวิทยาลัยยอดนิยมของสวิตเซอร์แลนด์ ปี 2012

– ETH Zurich

– Swiss Federal Institute of Technology Zurich, Zurich

– Ecole Polytechnique Federale de Lausanne, Lausanne

– University of Zurich, Zurich

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.universitieshandbook.com

โรงเรียนการโรงแรมยอดนิยมของสวิตเซอร์แลนด์ ปี 2012

– Ecole Hôtelière de Lausanne

– Les Roches International School of Hotel Management

– Glion Institute of Higher Education

– Les Roches Gruyere University of Applied Sciences

– César Ritz Colleges

– Ecole Hôtelière

– Swiss Hotel Management School

– Hotel Institute Montreux

– IHTTI School of Hotel Management in Neuchâtel

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.ekthana.com/