นักเรียนอังกฤษผู้ตกหลุมรักสวิส MBA Glion
นักเรียนอังกฤษผู้ตกหลุมรักสวิส MBA Glion

ศักดิ์ทิพ ปันยารชุน

นักเรียนอังกฤษผู้ตกหลุมรักสวิส

เขาผู้นี้เป็นทายาทแห่งสกุล “ปันยารชุน” คุณแชมป์-ศักดิ์ทิพ ปันยารชุน หลานคุณปู่ กุศะ ปันยารชุน ผู้เป็นพี่ชายของคุณอานันท์ ปันยารชุน ในด้านการเรียน  คุณแชมป์เจริญรอยตามคุณปุ่ด้วยการเป็นนักเรียนเก่าของสถาบันเก่าแก่ชื่อดังแห่งอังกฤษ และกำลังจะจบปริญญาโท MBA ด้าน International Hospitality and Service Industries Management ที่ Glion Institute of Higher Education ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้

คุณแชมป์เริ่มต้นชีวิตการศึกษาที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จนถึงชั้น ม.1 จึงย้ายไปเรียนที่ Shrewsbury International School แถวย่านเจริญกรุง “ผมเรียนที่  Shrewsbury International School” ตั้งแต่เขาเพิ่งเปิดที่เมืองไทยเลยครับ แล้วพอม.3 ถึงไปต่อที่ Stowe School ประเทศอังกฤษ จำได้ว่าก่อนไปอังกฤษ ผมเกเรมาก ตั้งตัวเป็นแก๊งคอยเดินแซวคนโน้นคนนี้ในช่วง Break time หรือ Lunch time เวลาอยู่ในคลาสก็ไม่ยอมตั้งใจเรียน เขาไม่ให้พูดภาษาไทยก็จะพูดภาษาไทย แล้วครูก็ชอบบ่นว่าผมเป็นจอมแสบ พอไปอยู่อังกฤษปีแรกที่ Stowe School ผมก็เปลี่ยนไปหมดเลย ผมตั้งใจและขยันเรียนด้วยตัวเองมากขึ้นให้สมกับที่คุณพ่อ (ไกร ปันยารชุน) และคุณย่า (สุพรรณี เบญจฤทธิ์) ส่งเรามาเรีน

“จำได้ว่าเทอมแรกได้คะแนนดีพอสมควร เขาจะมีคะแนนแบบ A+ หรือ A++ ถ้าส่งงานข้าหรืองานไม่ดีถึงจะได้ A, A- ประมาณนี้ ผมเรียน 13 วิชา ได้ A+ ประมาณ 6 วิชา ไม่มี A-เลย ทำให้ผมตระหนักว่าเราก็ทำได้นะ เราไม่ได้เป็นคนโง่ หลังจากนั้นผมก็พยายามเข็นตัวเองให้ได้คะแนนดีขึ้น จนสุดท้าย 2 ปีหลังผมเรียน 8 วิชา ได้ A+ และ A++ ถึง 22+เลย ทำให้เกรดผมดีขึ้น จากที่เคยได้ C บ้าง D บ้าง ก็ไม่มีอีกแล้วครับ มีแต่ก็ A กับ B เท่านั้น คือผมจะมีคู่แข่งที่เรียนมาด้วยกัน เราก็อยากเอาชนะเขาให้สมกับชื่อที่เราได้มาคือ “แชมป์” คุณแชมป์พูดไปพลางยิ้มไปพลางด้วยความภาคภูมิใจ

คุณแชมป์มีเคล็ดลับอะไรถึงได้สามารถพลิกคะแนนจากบ๊วยมาเป็นท็อปได้ “แชมป์ไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือแต่ชอบฟังครู แล้วก็เขียนโน้ตเป็นแบบพรีเซนเทชั่น ทำการบ้านให้ดี เวลาจะสอบเราก็เอามาทวน เพราะตรงนั้นจะมีทั้งตัวอย่งและคำอธิบายว่าคำคำนี้หมายความว่าอะไร จากนี้ไปอย่างไรต่อ แล้วพอเวลาสอบเราก็เขียนตามความเข้าใจของเราเลย”

สู่ University of Exeter

เพราะคิดว่าต้องกลับไปช่วยธุรกิจ SEA Tours Co.,Ltd. (Thailand) ของบิดา คุณแชมป์จึงพับการเรียนด้านศิลปะไปเพื่อมุ่งมั่นไปทางธุรกิจเต็มตัว “ตอนนั้นคิดอยู่ 3 ทางครับ หนึ่งเราจะเรียนศิลปะดีหรือเปล่า ผมชอบวาดรูปพอร์เทรดขนาดใหญ่เท่าผนังด้วยชอล์ก คิดว่าถ้าไม่ไปทางสถาปัตย์ ก็คงเป็นครีเอทีฟดีไซน์ สอง ตอนผมเรียนไฮสคูล ผมเรียนวิทยาศาสตร์การกีฬา เขาจะสอนว่ายกเวทยังไง เวลาบาดเจ็บต้องทำยังไง กินวิตามินยังไง ถ้ากล้ามเนื้อกระดูกเกิดบิดเบี้ยวต้องรักษายังไง ก็รู้สึกว่าน่าสนใจดี ทางเลือกสุดท้ายคือ Business Management ซึ่งคิดว่าคุณพ่อน่าจะชอบและเราเองก็ชอบอยู่แล้ว เลยตัดสินใจเรียนวิชานี้”

“ทางโรงเรียนให้ส่งใบสมัครไปมหาวิทยาลัย 5 แห่ง ตอบรับมาทุกแห่งสุดท้ายก็เลือก University of Exeter เพราะว่าถ้าเราไปเรียนในลอนดอน  เราจะตั้งใจเรียนได้หรือเปล่า เพราะแสงสีเยอะมาก กลัวจะไม่ตั้งใจเรียน ก็เลยไปอยู่ University of Exeter ดีกว่า และเราก็ชอบกีฬา ซึ่งมหาวิทยาลัยนี้ก็มีนักกีฬาโอลิมปิกเรียนเยอะพอสมควร คิดว่าบรรยากาศการเรียนน่าจะดีกว่า ก็ใช้เวลาเรียนประมาณ 2 ปีครึ่งก็จบ และได้เกียรตินิยมอันดับ 2 พลาดไป 0.5 เปอร์เซ็นต์ครับ”

สู่ Glion Institute of Higher Education

หลังจากเรียนจบปริญญาตรีแล้ว คุณแชมป์ขอเว้นวรรคการเรียนกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยอยู่ 1 ปี โดยช่วยธุรกิจของคุณพ่อ แต่แล้วก็จับพลัดจับผลูได้เข้าสู่แวดวงบันเทิงอยู่ระยะหนึ่ง “ปีที่แล้วผมว่างอยู่ เลยกลับมาทำงานกับคุณพ่อ แล้วบังเอิญรุ่นพี่คนหนึ่งเห็นแวว ก็เลยชวนผมมาทำงานในวงการ ทั้งถ่ายแบบและเล่นละครโดยเป็นดารารับเชิญ แล้วพอละครออนแอร์ปุ๊บก็มีงานติดต่อเข้ามาอีก คราวนี้เขาจะให้เป็นพระเอกละครถึง 3 เรื่อง มีอยู่เรื่องหนึ่งเป็นละครฟอร์มยักษ์ที่ต้องเล่นคู่กับใหม่ (ดาวิกา โฮเน่) ด้วย ก็แอบเสียดายเล็กน้อยที่ต้องปฏิเสธเพราะคุณพ่ออยากให้เรียนต่อ”

แรกเริ่มเขาส่งใบสมัครไปที่  Imperial College London ทางมหาวิทยาลัยก็ตอบรับมาเรียบร้อยแล้วเสียด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธไปเพื่อมาเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์แทน “ตอนแรกส่งใบสมัครไปที่ Imperial College London ได้ offer แล้วกำลังจะกด accept ด้วย แต่น้องชายผม (แชป-อัครา ปันยารชุน) ชวนบอกว่าทำไมต้องกลับไปอังกฤษอีก อยู่มาตั้ง 9 ปีแล้วไม่เบื่อหรือ มาสกีกับแชปที่สวิตเซอร์แลนด์เถอะ คือผมชอบเล่นสกี ขอบเล่นสโนว์บอร์ดมาก แล้วเขาก็เรียนที่สวิตเซอร์แลนด์ ผมเลยเปลี่ยนใจไปสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยเหตุผลว่าอยากไปเล่นสกีกับน้อง ง่ายๆแบบนั้นเลย ไม่ไป Imperial College London ก็ได้” เขาพูดพลางหัวเราะเบาๆ

แต่อันที่จริงเขาทราบดีว่าโรงเรียนการโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์นั้นติดอันดับที่ 1 หรือ 2 ของโลกทางด้าน Hospitality ในที่สุดจึงส่งใบสมัครไปที่ Glion Institute of Higher Education และได้รับการตอบรับ โดยอยู่กันคนละแคมปัสกับน้องชาย คุณแชมป์พักอยู่ที่เมือง Bulle เพราะทางสถาบันจัดให้นักศึกษาปริญญาโทพักอยู่ที่นั่น ซึ่งคุณแชมป์เลือกเรียน MBA ทางด้าน International Hospitality and Service Industries Management

การเรียนการสอนของที่นี่โหดใช่ย่อย  ทำให้คุณแชมป์ต้องเรียนหนักกว่าเดิมมาก “เราต้องทำรีเสิร์ชอย่างหนัก เพราะเขาต้องการคำตอบที่ลึกมากๆ เราจะเขียนลอยๆ ตามที่คิดไม่ได้ เราต้องอ่านมากรู้มากภายในระยะเวลาอันจำกัด อย่างวิชาหนึ่งจะมีการบ้าน 3 งาน แต่ละวิชาใช้เวลาสอนแค่ 4 อาทิตย์ แล้วแต่ละอาทิตย์ก็มีการบ้านหนักๆทั้งนั้นเลย อาทิตย์แรกส่ง PowerPoint presentation อาทิตย์ที่สองเป็นรายงาน 2,500 คำ อาทิตย์ที่สาม 3,500 คำ จะเป็นแบบนี้ตลอด แล้วเทอมหนึ่งเรียน 5-7 วิชาก็ยากพอสมควร

“แล้วเกรดก็ให้ยากกว่าทุกที่ การที่จะได้ A ต้องทำได้ 90% ขึ้นไป แต่ครูจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหากว่าเขาให้ A ข้อสอบนั้นจะต้องถูกส่งไปตรวจกับอีกหลายฝ่ายว่ายากง่ายยังไง แล้วเราทำได้จริงหรือเปล่า”

แต่คุณแชมป์ก็เรียนอย่างมีความสุข “แฮปปี้มากครับ  จันทร์ถึงศุกร์เรียน ออกกำลังกายบ้าง ขับรถไปกินข้าวแถวมองเทรอซ์บ้าง หน้าหนาวไปเล่นสกี ส่วนหน้าร้อนก็ไปเที่ยวอิตาลี ฝรั่งเศส สเปนกับเพื่อนๆบ้าง ทั้งที่ก่อนจะมาสวิตเซอร์แลนด์ ผมกังวลเหมือนกันว่าจะอยู่ได้ไหม เพราะเราเคยอยู่อังกฤษมา แต่พอมาวันแรกก็ได้เพื่อน ทำให้เราชอบที่นี่มากกว่าอังกฤษเสียอีก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ทั้งที่เมือง Bulle นี้ไม่มีอะไรเลย มีห้างสรรพสินค้า Manor ที่เลิศสุดในเมืองแล้วก็ยังเล็กประมาณร้านสะดวกซื้อบ้านเรา พอใกล้จะจบก็รู้สึกเสียดายที่เราจะจบแล้วหรือเนี่ย กลับไปเมืองไทยเมื่อไรผมคงคิดถึงที่นี่มาก แล้วผมก็วางแผนกับเพื่อนไว้ว่าจะกลับมาที่นี่ทุกปี เพราะว่าคิดถึง อากาศก็ดีและปลอดภัยมาก เป็นคุณภาพชีวิตที่ดีครับ”

แต่แม้จะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นแล้วสวิตเซอร์แลนด์ก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของเขาไปอีกนานเท่านาน

*ขอบคุณบทสัมภาษณ์จาก HELLO! EDUCATION Special Edition 2015